หากเปรียบเว็บไซต์เป็นเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์ก็คือสารบัญของหนังสือเล่มใหญ่ที่บอกว่าในหนังสือเล่มนี้มีบทอะไรบ้าง บทไหนอยู่หน้าไหน ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราก็จะมาดูกันว่า Sitemap นั้นมีประโยชน์บ้าง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google ได้อย่างไร
Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์ คืออะไร?
Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์ คือส่วนที่ช่วยอธิบายโครงสร้างของเว็บไซต์ว่ามีหัวข้อ หรือมีเนื้อหาอะไรบ้าง อีกความหมายก็เปรียบเหมือนเป็นแผนที่ที่ช่วยนำทางให้กับเว็บไซต์ เป็นไฟล์ที่รวบรวมรายการ URL ทั้งหมดในเว็บไซต์ของคุณ โดยจัดเรียงอย่างเป็นระบบ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน้าต่าง ๆ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละหน้า เช่น วันที่อัปเดตล่าสุด ความถี่ในการอัปเดต และลำดับความสำคัญของหน้านั้น ๆ
ประโยชน์ของ Sitemap ต่อการทำ SEO
- ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ เมื่อ Googlebot เข้ามาสำรวจเว็บไซต์ของคุณ Sitemap จะเป็นเหมือนแผนที่ที่ชี้ทางให้รู้ว่ามีหน้าไหนบ้าง และหน้าเหล่านั้นเชื่อมโยงกันอย่างไร ช่วยให้ Google เข้าใจภาพรวมของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
- เร่งการค้นพบหน้าใหม่ เมื่อคุณเพิ่มเนื้อหาใหม่ การมี Sitemap จะช่วยให้ Google รู้ทันทีว่ามีหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ไม่ต้องรอให้ค้นพบผ่านการลิงก์จากหน้าอื่น ๆ ทำให้เนื้อหาใหม่ถูกนำไปจัดอันดับได้เร็วขึ้น
- จัดการกับโครงสร้างเว็บไซต์ที่ซับซ้อน สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีหลายหน้า หรือมีโครงสร้างซับซ้อน Sitemap จะช่วยให้มั่นใจว่าไม่มีหน้าไหนถูกมองข้าม ทุกหน้าจะได้รับการสำรวจ และจัดอันดับอย่างเหมาะสม
- เพิ่มประสิทธิภาพการ Crawl Budget ปริมาณของหน้าเว็บไซต์ที่ Googlebot สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณได้ภายในระยะเวลาหนึ่ง ยกตัวอย่าง ให้คุณคิดว่า Googlebot เป็นพนักงานส่งของที่ต้องส่งของให้ลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวัน แต่พนักงานคนนี้มีทั้งเวลาและพลังงานจำกัด จึงไม่สามารถส่งของให้ครบทุกบ้านได้ภายในวันเดียว เขาจึงต้องบริหารจัดการโดยการส่งของให้กับบ้านที่สำคัญที่สุดก่อนนั่นเอง
ประเภทของ Sitemap
- XML Sitemap เป็นไฟล์ที่สร้างขึ้นสำหรับเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) โดยเฉพาะ ประกอบด้วยข้อมูล URL ทั้งหมด วันที่อัปเดตล่าสุด ความถี่ในการเปลี่ยนแปลง และค่าความสำคัญของแต่ละหน้า
- HTML Sitemap เป็นหน้าเว็บปกติที่แสดงโครงสร้างเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้งาน ช่วยในการนำทางและเพิ่ม Internal Link ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ SEO
ควรเริ่มทำ Sitemap ตั้งแต่ตอนไหน
การทำ Sitemap ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงแรกของการสร้างเว็บไซต์ จะช่วยให้ Google รู้จักและเริ่มจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้เร็วขึ้น เพราะ Google จะเห็นภาพรวมโครงสร้างเว็บไซต์ทั้งหมดในครั้งแรกที่เข้ามาตรวจสอบ
หากคุณวางแผนจะเพิ่มเนื้อหาจำนวนมากหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเว็บไซต์ ควรอัปเดต Sitemap ทันที เพื่อให้ Google พบและจัดอันดับเนื้อหาใหม่ได้เร็วที่สุด
ลักษณะเว็บไซต์ที่ควรมี Sitemap
- เว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่ การมีหน้าเว็บจำนวนมาก หากไม่มี Sitemap อาจทำให้ Search Engine พลาดการค้นพบหน้าเว็บบางหน้าไปได้
- เว็บไซต์ใหม่ ที่ยังไม่มี Backlink จากเว็บไซต์อื่นมากนัก การมี Sitemap จะช่วยให้ Search Engine ค้นพบเว็บไซต์ของคุณได้เร็วขึ้น
- เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาอัปเดตบ่อย ๆ ที่มักมีการเพิ่มหรือแก้ไขเนื้อหาใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- เว็บไซต์ที่ใช้สื่อเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ รูปภาพ ถ้าไม่มี Sitemap จะทำให้เครื่องมือค้นหาไม่สามารถค้นหาและจัดทำดัชนีไฟล์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
- เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างซับซ้อน เว็บไซต์ที่มีการแบ่งหมวดหมู่ย่อยหลายระดับ หรือมีการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ที่ซับซ้อน
ลักษณะเว็บไซต์ที่ยังไม่จำเป็นต้องมี Sitemap
- เว็บไซต์ขนาดเล็ก สำหรับเว็บไซต์ที่มีจำนวนหน้าไม่มากนักหรือไม่เกิน 500 หน้า
- เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างเรียบง่าย เช่น บล็อกส่วนตัวที่มีโพสต์เรียงตามลำดับเวลา ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Sitemap มากนัก
- เว็บไซต์ที่ไม่มีลิงก์ภายในหลายๆ หน้า เว็บไซต์ที่มีหน้าเดียวหรือไม่ซับซ้อนเกินไป
- เว็บไซต์ที่ไม่มีเนื้อหาที่ต้องการให้ค้นพบ เว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้เครื่องมือค้นหาค้นพบทุกหน้าหรือบางหน้า (เช่น หน้า Login หรือหน้าบริการที่ต้องการซ่อน)
สรุปแล้ว Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ทำเว็บไซต์ทุกคนควรมี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO และช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เว็บไซต์ถูกค้นพบได้ง่ายขึ้น มีการจัดอันดับที่ดี และที่สำคัญคือช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ที่มีหน้าเว็บจำนวนมากหรือมีการอัปเดตเนื้อหาบ่อย ๆ
หากคุณต้องการยกระดับเว็บไซต์ของคุณด้วยการทำ SEO แบบมืออาชีพ Bizsoft พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลเว็บไซต์ของคุณอย่างครบวงจร ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ไปด้วยกัน