Google Business Profile (GBP) คืออะไร? แพลตฟอร์มใหม่ของ Google หรือเปล่า? คำตอบคือไม่ใช่ แต่เป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ Google My Business (GMB) ต่างหาก นั้นก็เพราะว่าทาง Google เขาได้ทำการ Rebranding ใหม่ เพื่อให้มีการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น แก้ไขผ่านหน้าการค้นหา Google Search และ Google Maps ได้ทันที

ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานของ Google Business Profile อยู่ไม่น้อย ทาง Bizsoft จึงได้รวบรวมคำถามที่ถูกพบบ่อยมาทั้งหมด 6 คำถามพร้อมกับให้คำตอบเพื่อให้คุณได้เข้าใจ และใช้ประโยชน์จาก Google Business Profile ได้มากที่สุดผ่านบทความนี้

Google Business Profile คืออะไร

Google Business Profile (GBP) คือ บริการของ Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูล เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้กับธุรกิจ และบริการได้ง่ายมากขึ้น ผ่านการแสดงผลหน้าการค้นหา Google Search และ Google Maps ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าคุณกำลังมองหาร้านกาแฟใกล้ ๆ บ้าน คุณก็แค่พิมพ์คำว่า “ร้านกาแฟ” ลงใน Google Search หรือเปิด Google Maps แล้วค้นหา ร้านกาแฟที่อยู่ในพื้นที่ก็จะปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ พร้อมกับรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อร้าน ที่อยู่ รูปภาพ และรีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆ นั่นเอง

6 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Business Profile

คำถามที่ 1 คนอื่นสามารถเข้ามาแก้ไขข้อมูลใน Google Business Profile ของเราได้หรือไม่?

โดยปกติแล้ว คนอื่นจะไม่สามารถเข้ามาแก้ไขข้อมูลใน Google Business Profile ของคุณได้โดยตรง เนื่องจาก Google มีระบบการยืนยันตัวตนของเจ้าของธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามคุณควรเข้าไปตรวจสอบข้อมูลธุรกิจของคุณใน Google Business Profile เป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลยังคงถูกต้อง แต่ถ้าพบการเปลี่ยนแปลงโดย Google เปลี่ยนให้โดยอัตโนมัติ นั้นเป็นเพราะ Google ได้แก้ไขรายการของคุณตามข้อมูลใหม่ดังต่อไปนี้

• การแนะนำให้แก้ไขโดยผู้ใช้งานทั่วไป
• แหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อถือได้
• การเปลี่ยนแปลงบน Google Maps

โดยก่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ Google จะส่งอีเมลแจ้งเตือนเพื่อให้คุณตรวจสอบว่าข้อมูลที่ถูกเปลี่ยนนั้นมีความถูกต้องหรือไม่ และเน้นย่ำอีกครั้งว่าคุณจะต้องตรวจสอบข้อมูลธุรกิจอย่างสม่ำเสมอข้อมูลจะต้องถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด

คำถามที่ 2 บัญชี Google Business Profile ถูกระงับ ต้องทำอย่างไร?

“สิทธิ์เข้าถึงของคุณถูกปิดเนื่องจากข้อมูลธุรกิจนี้ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ แก้ไขข้อมูลทางธุรกิจ และดูวิธีรับคืนสิทธิ์” เมื่อบัญชี Google Business Profile ถูกระงับแสดงว่าบัญชีของคุณอาจมีการละเมิดนโยบายของ Google เช่น การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลอกลวง หรือการได้รับรีวิวที่ไม่เหมาะสม แน่นอนว่าผลกระทบที่ต้องเจอคือการหายไปจากการค้นหา ลูกค้าที่เคยใช้บริการหรือสนใจธุรกิจไม่สามารถที่จะติดต่อ หรือเข้าถึงข้อมูลธุรกิจได้ ทำให้ต้องสูญเสียลูกค้ารายเดิม และโอกาสในการได้ลูกค้ารายใหม่

แต่คุณสามารถที่จะขอยื่นอุทธรณ์ได้ โดยก่อนยื่นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Business Profile นั้นถูกต้องเป็นไปตามนโยบายแนวทางของ GBP ขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์ปฏิบัติดังนี้

1. ตรวจสอบอีเมลแจ้งเตือน ตรวจสอบอีเมลที่ Google ส่งมาแจ้งเหตุผลการระงับโปรไฟล์ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาและเตรียมเอกสารหลักฐานได้ถูกต้อง
2. เข้าสู่ระบบ Google Business Profile
3. กรอกแบบฟอร์มอุทธรณ์ กรอกแบบฟอร์มอุทธรณ์ตามที่ Google กำหนด โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และครบถ้วน รวมถึงใส่เหตุผลที่คุณคิดว่าทำไมบัญชี Google Business Profile ถึงถูกระงับ ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือการสารภาพบาปว่าล่าสุดได้ไปกดแก้ไขอะไรมาบ้าง ในช่วงท้าย ๆ ก่อนจะโดนระงับ อธิบายให้ชัดเจนตามความจริง
4. หลักฐานเพื่อยื่นอุทธรณ์ ระบบจะแจ้งให้คุณแนบหลักฐานไปกับแบบฟอร์มที่ลิงก์เพื่อประกอบ การอุทธรณ์ หลักฐานจะช่วยให้การอุทธรณ์หนักแน่นขึ้น ได้แก่ การจดทะเบียนธุรกิจอย่างเป็นทางการ, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ, ใบรับรองการเสียภาษี, ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคของธุรกิจ (ไฟฟ้า โทรศัพท์ น้ำ หรืออินเทอร์เน็ต)
5. ส่งแบบฟอร์ม เมื่อกรอกข้อมูล และแนบเอกสารครบถ้วนแล้ว
6. รอการพิจารณา Google จะใช้เวลาในการพิจารณาคำขอของคุณ อาจจะใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการถูกระงับ จากนั้น Google จะส่งอีเมลแจ้งคำตัดสินให้คุณทราบ

คำถามที่ 3 เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ และอัปเดตลงใน Google Business Profile แล้ว แต่ทำไมลูกค้าถึงยังเห็นข้อมูลที่อยู่เก่า แทนที่จะเป็นข้อมูลที่อยู่ใหม่

การอัปเดตข้อมูลที่อยู่ใน Google Business Profile อาจใช้เวลาสักครู่ในการแสดงผล เนื่องจาก Google ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หรืออีกเหตุผลคือข้อมูลที่คุณอัปเดตไปไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้

1. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อัปเดตที่อยู่ใหม่ในทุกส่วนของ Google Business Profile แล้ว
2. ที่อยู่ถูกต้องชัดเจน ระบุเฉพาะข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่เท่านั้น ระบุให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น “1/33 หมู่บ้านแสนสุข ถนนบางปะอิน ตำบลบางพุ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 12000” ที่ควรหลีกเลี่ยงคือ “แยกสาย 2” หรือ “ตรงข้ามสวนสาธารณะ” เพราะ Google จะไม่เข้าใจ นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ต่อให้อัปเดตไปแล้วก็ยังคงขึ้นที่อยู่เดิมอยู่
3. ติดต่อฝ่ายสนับสนุน หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Google เพื่อขอความช่วยเหลือได้

คำถามที่ 4 เจอรีวิวปั่น ก่อกวนให้เสียชื่อเสียง ควรทำอย่างไร?

ก่อนอื่นคุณต้องมั่นใจว่ารีวิวนั้นเป็นรีวิวที่ตั้งใจมาปั่น หรือก่อกวน จริง ๆ หากเป็นจริงย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และยอดขายอย่างแน่นอน สิ่งแรกที่คุณควรทำคือตอบกลับผู้รีวิวอย่างสุภาพ วิธีนี้จะทำให้ทุกคนที่ได้เห็นรีวิวเชิงลบรู้ว่าคุณใส่ใจมากพอที่จะจัดการกับลูกค้าที่ไม่พอใจโดยตรง อีกวิธีที่สามารถทำได้คือ การรายงานรีวิว แต่อย่ารายงานรีวิวเพียงเพราะคุณไม่เห็นด้วย หรือไม่ชอบรีวิวนั้น หรือถ้ารีวิวนั้นผิดตามนโยบายของ Google และเป็นของปลอมจริง ๆ คุณสามารถแจ้งรายงานขอลบได้ ให้คุณเข้าไปที่บัญชี Google Business Profile เลือกรีวิวที่คุณต้องการรายงาน แตะจุดสามจุดด้านขวาแล้วกดเลือกรายงานรีวิว ให้เหตุผลกับทาง Google ทราบว่าการรีวิวนั้นละเมิดนโยบายใด แล้วคลิกส่งรายงาน จากนั้นรอการตรวจสอบ โดยรีวิวจะถูกนำออกหากพบว่าละเมิดนโยบายจริง หากตรวจสอบว่าไม่ละเมิดผิดตามที่แจ้งมารีวิวจะยังคงเผยแพร่ต่อไป

คำถามที่ 5 มีเว็บไซต์อยู่แล้ว จำเป็นต้องมี Google Business Profile ไหม?

แม้ว่าคุณจะมีเว็บไซต์อยู่แล้ว แต่การมี Google Business Profile ยังคงมีความสำคัญ และจำเป็น เพราะทั้งสองอย่างนี้จะช่วยส่งเสริมกันให้การเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้งานค้นหาผ่าน Google Search และ Google Maps จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้ใหม่ ๆ ที่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ

คำถามที่ 6 ถ้าธุรกิจมีเจ้าของหลายคนที่ต้องการเข้าถึง Google Business Profile ควรทำอย่างไร?

คุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ทำร่วมกันหลายคน โดยที่คุณเป็นเจ้าของบัญชี Google Business Profile คุณสามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละคนได้ ให้คุณไปที่บัญชี Google Business Profile เลือกการตั้งค่า Business Profile ผู้ใช้และการเข้าถึง ด้านซ้ายบนจะมีให้เพิ่ม กดเข้าไปป้อนชื่อหรืออีเมล จากนั้นเลือกเจ้าของหรือผู้จัดการในส่วน “การเข้าถึง” แล้วคลิกเชิญได้เลย ซึ่งการแบ่งสิทธิ์เข้าถึงนี้จะช่วยให้แต่ละคนสามารถดูแลข้อมูลธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

และทั้งหมดนี้คือ 6 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Business Profile ที่ Bizsoft ได้รวบรวมพร้อมกับคำตอบให้ทุกคนได้หายสงสัย อย่างไรก็ตามนี้เป็นคำถามเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งาน Google Business Profile สามารถติดต่อ Bizsoft เพื่อขอคำปรึกษา และข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย