ประเภทของ Keyword หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของการทำ SEO โดยเฉพาะในปี 2025 เพราะปัจจุบันเราไม่สามารถใช้วิธีเดิม ๆ ในการหาคีย์เวิร์ดได้อีกต่อไป เนื่องจากอัลกอริทึมของ Google และพฤติกรรมผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเลือกคีย์เวิร์ดต้องมีความละเอียด และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น Bizsoft จะขอพาคุณไปรู้จักกับประเภทของคีย์เวิร์ดที่สำคัญสำหรับการทำ SEO ในปี 2025 ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ดีขึ้น
Keyword คืออะไร
Keyword คือ คำ หรือ วลี ที่ผู้คนใช้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการบน Search Engine อย่าง Google ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรือข้อมูลต่าง ๆ เมื่อมีคนพิมพ์ Keyword ลงใน Google แล้วเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาตรงกับ Keyword นั้น ๆ เว็บไซต์ของคุณก็มีโอกาสที่จะแสดงขึ้นมาบนผลการค้นหา ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขาย และความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ในที่สุด
5 ประเภทของ Keyword สำหรับการทำ SEO ให้ติดอันดับ!!
การเข้าใจประเภทของ Keyword จะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เข้าใจ Keyword มากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับประเภทต่าง ๆ ของ Keyword กัน โดยในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง 5 ประเภทหลัก ๆ ที่ควรรู้ ดังนี้
- Generic Keyword คือ Keyword ที่มีความหมายกว้าง ๆ ไม่เจาะจง มักมีปริมาณการค้นหาสูงแต่ก็มีการแข่งขันสูงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น รองเท้า, รถยนต์, โทรศัพท์, อาหาร, ท่องเที่ยว ฯลฯ
ข้อดีของ Generic Keyword
-
- สร้าง Brand Awareness ช่วยให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ หรือเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
- ดึงดูด Traffic จำนวนมาก มีโอกาสได้รับ Traffic เข้าเว็บไซต์จำนวนมาก หากติดอันดับในหน้าแรก ๆ
ข้อเสียของ Generic Keyword
-
- Conversion Rate ต่ำ ผู้ที่ค้นหาด้วย Generic Keyword มักจะยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ หรือใช้บริการ
- ยากต่อการติดอันดับ เนื่องจากมีการแข่งขันสูงเว็บไซต์ใหม่ ๆ หรือเว็บไซต์ที่มี Domain Authority ต่ำ อาจจะยากต่อการติดอันดับ
- Broad Keyword คือ Keyword ที่ครอบคลุมความหมายกว้าง ๆ คล้ายกับ Generic Keyword แต่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น รองเท้าวิ่ง, รถยนต์ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือ, สมาร์ทโฟน Android, โรงแรมกรุงเทพ, ประกันสุขภาพ ฯลฯ
ข้อดีของ Broad Keyword
-
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้า หรือบริการที่ตรงกับธุรกิจของคุณ
- มีโอกาสติดอันดับสูง การแข่งขันที่น้อยลงทำให้มีโอกาสติดอันดับในหน้าแรก ๆ ของผลการค้นหามากขึ้น
- Conversion Rate สูง ผู้ใช้มักจะมีความต้องการซื้อ หรือใช้บริการนั้น ๆ อยู่แล้ว
ข้อเสียของ Broad Keyword
-
- ปริมาณการค้นหาไม่สูงเท่า Generic Keyword อาจทำให้ได้รับ Traffic เข้าเว็บไซต์น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Generic Keyword
- Niche Keyword คือ Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเจาะลึกลงไปในกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ถือเป็น Keyword ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Generic Keyword และ Long-tail Keyword เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า Generic Keyword แต่มีความกว้างกว่า Long-tail Keyword ตัวอย่างเช่น รองเท้าวิ่ง Adidas หรือ ร้านอาหารไทยในเชียงใหม่
ข้อดีของ Niche Keyword
-
- ดึงดูดลูกค้า ช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้า หรือบริการที่ตรงกับธุรกิจของคุณจริง ๆ
- เพิ่มโอกาสในการขาย เนื่องจาก Niche Keyword มีความเฉพาะเจาะจงจึงมีโอกาสสูงที่ผู้ที่ค้นหาด้วย Keyword ประเภทนี้จะตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการของคุณ
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ช่วยให้คุณสื่อสารกับลูกค้าในภาษาที่พวกเขาเข้าใจ และสร้างความรู้สึกว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ
ข้อเสียของ Niche Keyword
-
- ปริมาณการค้นหาไม่สูงเท่า Generic Keyword หรือ Broad Keyword อาจทำให้ได้รับ Traffic เข้าเว็บไซต์น้อยกว่า
- Long-tail Keyword คือ Keyword ที่มีความยาว และความเฉพาะเจาะจงสูง มักมีปริมาณการค้นหาต่ำ แต่มีโอกาสในการ Convert สูงกว่า เพราะผู้ที่ค้นหาด้วย Keyword ประเภทนี้มักจะมีความต้องการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง ลดราคา, รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ราคา, โทรศัพท์มือถือ iPhone 14 Pro Max 256GB
ข้อดีของ Long-tail Keyword
-
- ดึงดูดลูกค้าที่พร้อมซื้อ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการ และพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อ
- เพิ่ม Conversion Rate ช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ เนื่องจากพวกเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
ข้อเสียของ Long-tail Keyword
-
- ปริมาณการค้นหาต่ำ อาจทำให้ได้รับ Traffic เข้าเว็บไซต์น้อยกว่า Keyword ประเภทอื่น ๆ
- Local Keyword คือ คำหลักที่ระบุสถานที่ เช่น เมือง จังหวัด หรือย่าน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏบนผลการค้นหาเมื่อผู้ใช้งานค้นหาสินค้าหรือบริการในพื้นที่นั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพ, ร้านกาแฟใกล้ฉัน, โรงแรมในเชียงใหม่ ฯลฯ
ข้อดีของ Local Keyword
-
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ หรือทำงานในพื้นที่ที่คุณให้บริการ
- เพิ่มโอกาสในการขาย ผู้ที่ค้นหาด้วย Local Keyword มักจะพร้อมที่จะซื้อสินค้า หรือใช้บริการ เพราะพวกเขาต้องการสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง
- สร้าง Brand Awareness ในพื้นที่ ช่วยให้ผู้คนในพื้นที่รู้จักแบรนด์ หรือธุรกิจของคุณมากขึ้น
ข้อเสียของ Local Keyword
-
- เข้าถึงลูกค้า นอกพื้นที่ไม่ได้ Local Keyword จะจำกัดการเข้าถึงลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่ที่คุณระบุ
จุดประสงค์ในการค้นหา (Search Intent)
Search Intent คือจุดประสงค์ในการค้นหาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการเลือกใช้ Keyword Search Intent คือสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการค้นหาจริง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- Informational ค้นหาข้อมูล ความรู้ หรือคำตอบทั่วไป
- Navigational ค้นหาเว็บไซต์หรือหน้าเว็บเพจที่เฉพาะเจาะจง
- Commercial ค้นหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการก่อนตัดสินใจซื้อ
- Transactional ค้นหาเพื่อทำธุรกรรม เช่น ซื้อสินค้า สมัครบริการ หรือดาวน์โหลด
การวิเคราะห์ Keyword ของคู่แข่ง (Competitor Keyword Research)
การวิเคราะห์ Keyword ของคู่แข่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้คุณค้นพบ Keyword ใหม่ ๆ และเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่ง คุณสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush หรือ SpyFu ในการวิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่งเพื่อดูว่าคู่แข่งของคุณกำลังใช้ Keyword อะไรในการทำ SEO และ Keyword ไหนที่ทำให้เว็บไซต์ของพวกเขาติดอันดับบนผลการค้นหา
อนาคตของ Keyword
ในปัจจุบันเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Voice Search (การค้นหาด้วยเสียง) กำลังมีบทบาทสำคัญต่อการวิจัย Keyword ผู้คนเริ่มใช้ภาษาพูดในการค้นหาข้อมูลมากขึ้น เช่น การถามคำถามกับ Siri หรือ Google Assistant ดังนั้น Keyword ในอนาคตจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งาน
รู้ประเภทของ Keyword แล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือกลยุทธ์ในการเลือกคีย์เวิร์ดไปใช้งาน ต้องอาศัยการวิเคราะห์ วางแผน และทดสอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด! เพราะในปี 2025 Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ตอบโจทย์การค้นหาของผู้ใช้มากกว่าเดิม ดังนั้น การใช้คีย์เวิร์ดจึงต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ในบริบทที่เหมาะสมไม่ใช่การยัดเยียดคีย์เวิร์ดลงในเนื้อหาเพื่อต้องการติดอันดับเพียงอย่างเดียว
อย่าหยุดพัฒนา! และทดลองสิ่งใหม่ ๆ เพื่อค้นหากลยุทธ์ และ Keyword ที่ใช่สำหรับเว็บไซต์ของคุณ แล้วคุณจะพบว่าการทำ SEO ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด! มองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเว็บไซต์ SEO SEM การตลาดออนไลน์ Bizsoft เรามีครบจบในที่เดียว ติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้แล้ววันนี้! มาร่วมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจบนโลกออนไลน์ไปด้วยกัน